จงยังสมาธิให้เกิดขึ้นเถิด
สมาธึ ภิกฺขเว ภาเวถ
สมาหิโต ยถาภูตํ ปชานาติ
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย จงยังสมาธิให้เกิดขึ้นเถิด
ผู้ที่มีจิตตั้งมั่นแล้ว ย่อมรู้เห็นตามความเป็นจริง
เมื่อกล่าวถึงศีล สมาธิ ปัญญา ย่อมทราบกันดีว่าย่นย่อมาจากอริยมรรคมีองค์ ๘ นั่นเอง ผู้ปฏิบัติส่วนใหญ่มักให้สำคัญกับการพยายามที่จะรักษาศีลให้ได้ โดยใช้ความตั้งใจอย่างมากเพื่อพยายามรักษา ด้วยการระมัดระวังเพื่อไม่ให้ศีลทะลุ ด่างพร้อย ซึ่งแบบที่ว่ามานั้น เหมือนข้าวที่คอยฝน ซึ่งบอกไม่ได้ว่าฝนจะตกเมื่อไหร่
การรักษาศีลโดยการสร้างสติ จากการปฏิบัติธรรมสมาธิกรรมฐานภาวนานั้น เป็นการสร้างสติปัฏฐาน ๔ ที่เกิดจากการภาวนา ผู้ปฏิบัติย่อมระลึกรู้ได้รวดเร็วกว่าการคอยระวังตั้งใจให้มีการรักษาศีล การสร้างสติจากการทำสมาธิกรรมฐานภาวนา เท่ากับ “ศีลจะคอยรักษาบุคคล” นั้นนั่นเอง
พระพุทธองค์ทรงให้ความสำคัญอย่างยิ่งยวดในการปฏิบัติธรรมสมาธิกรรมฐานภาวนา ทรงตรัสยืนยันหนักแน่นว่า “ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย” แสดงว่า พระพุทธองค์ทรงมิได้ยกเว้นให้กับพระภิกษุสงฆ์รูปใดรูปหนึ่งอันเป็นสาวกของพระพุทธองค์เลย
เพราะบุคคลที่มีจิตใจเป็นสมาธิ มีสติสงบตั้งมั่นดีแล้ว ย่อมรู้เห็นตามความเป็นจริง อะไรเล่าที่เรียกว่า “รู้เห็นตามความเป็นจริง” มีพระพุทธพจน์รับรองไว้ว่า คือ การรู้เห็นอริยสัจ ๔ ตามความเป็นจริง ดังนี้ คือ
ทุกข์ ควรกำหนดรู้
สมุทัย ควรละเหตุแห่งทุกข์นั้น
มรรค ต้องเจริญ ต้องทำให้เกิดขึ้น
นิโรธ ทำให้แจ้งในการดับทุกข์
เจริญในธรรมทุกๆ ท่าน
พระภัทรสิทธิ์ อภินันโท
https://www.facebook.com/DhammaBhut