กรรมฐานในอริยมรรค ไม่ใช่หินทับหญ้า เมื่อกล่าวถึงเรื่องกรรมฐาน มักเข้าใจกันไปว่าต้องหากรรมฐานตามวัดวาอาราม สำนักสงฆ์ หรือศูนย์ปฏิบัติธรรมต่างๆ ที่มีการฝึกสอนอบรมการปฏิบัติสมาธิกรรมฐานภาวนา และได้ยินจนคุ้นหูจากบุคคลผู้ผ่านการปฏิบัติธรรมกรรมฐานทั้งหลาย ที่ได้เข้ารับการอบรมปฏิบัติธรรมมาแล้วว่า ได้องค์ภาวนามาแล้วบ้าง ได้ไปผ่านกรรมฐานมาแล้วบ้าง ได้ฐานที่ตั้งมาแล้วบ้าง ฯลฯ เป็นความเข้าใจกันไปตามมติของนัก “ปริยัติ” ที่ยังยึดติดอยู่กับตำรา (ปิฎก) โดยขาดการพิจารณา ตริตรอง ตรวจสอบ สอบสวน เทียบเคียงอย่างรอบคอบ กับพระพุทธพจน์ในพระธรรมวินัย ที่พระพุทธองค์ได้ทรงตรัสวางหลักเกณฑ์ต่างๆ ในการปฏิบัติธรรมกรรมฐานภาวนาไว้ดีแล้ว ส่วนบุคคลที่ยังยึดติดอยู่กับตำรับตำรา (ปิฎก) มักกล่าวว่า การปฏิบัติธรรมกรรมฐานภาวนานั้น เป็นเพียงสมถะกรรมฐาน เป็นกรรมฐานแบบหินทับหญ้า ติดสุข เมื่อยกหินที่ทับหญ้าออกเมื่อไร หญ้าก็งอกกลับขึ้นมาได้ใหม่อีก สมถะกรรมฐานไม่อาจตัดกิเลสได้ เป็นพวกที่เอาแต่ติดสุขอยู่กับความสงบในฌาน ไม่สามารถเจริญปัญญาเพื่อตัดกิเลสให้เกิดขึ้นมาได้เลย ซึ่งเป็นความเข้าใจผิด ไม่รู้จักแยกแยะว่ากรรมฐานที่มีอยู่ระหว่างศาสนาพุทธ กับศาสนาพราหมณ์นั้น…